สร้างแบรนด์ ครบวงจร มาตรฐานGMP โทร.0949451469 Line : @zzshopzz






รับผลิตครีม รับผลิตครีมกิโล ครีมหน้าใส รับผลิตสบู่ รับผลิตเบสครีม เบสสบู่ เบสครีม แพจเกจต่างๆ หลอดลิปสติกเนื้อแมท หลอดลิปแมท หลอดลิป หลอดลิปจุ่ม บรรจุภัณฑ์หลอดลิปจิ้มจุ่ม ขวดลิปกลอส หลอดลิปจิ้มจุ่ม รับออกแบบ รับออกแบบกล่อง พิมพ์กล่อง สติ๊กเกอร์ ฉลากสินค้า ออกแบบฉลาก สารสกัด เคมีภัณฑ์ รับผลิตลิปสติก รับผลิตลิปสติกเนื้อแมท รับผลิตลิปแมท โรงงานรับผลิตลิป รับผลิตลิปแมท รับผลิตลิป รับผลิตลิปกลอส มีสี RichRad หลอดลิปจิ๋ว หลอดลิป1กรัม หลอดลิป2กรัม หลอดลิป2.5กรัม หลอดลิป3กรัม หลอดลิป5กรัม หลอดลิปมินิ มาร์ค แผ่นมาร์คหน้า มาร์ก แผ่นมาร์กหน้า แผ่นมาร์คหน้า รับผลิตมาร์คหน้า รับผลิมาร์คใยไหม รับผลิตมาร์คทองคำ แผ่นมาส์กหน้า รับผลิตมาส์กหน้า แผ่นมาส์กหน้า

บริการ จดแจ้ง อย | ขอใบ Certificate of free sales : CFS | ขอใบ Certificate of Analysis : COA

ผลิตภายใต้โรงงานที่ได้รับมาตรฐาน GMP เหมาะกับธรุกิจ MLM และส่งออก

..


..

รับผลิตครีม รับผลิตสบู่ เบสครีม แพจเกจต่างๆ รับออกแบบ พิมพ์กล่อง สติ๊กเกอร์ ฉลาก รับผลิตเบสครีมเบสสบู่ ครีมสบู่ สำเร็จรูป รับผลิตครีม รับผลิตสบู่ รับผลิตเบสรีมต่างๆ รับผลิตเบสสบู่ แพจเกจต่างๆ รับออกแบบกล่อง สติ๊กเกอร์ ฉลาก สารสกัด เคมีภัณฑ์ ครีมหน้าใส รับผลิตเบสครีม ออกแบบฉลาก ออกแบบสติ๊กเกอร์ รับผลิตเบสครีมต่างๆ ครีมสบู่สำเร็จรูป รับผลิตเบสครีมรับผลิตเบสสบู่ รับผลิตลิปสติก รับผลิตลิปสติกเนื้อแมท รับผลิตครีม รับผลิตสบู่ เบสครีม แพจเกจต่างๆ รับออกแบบ พิมพ์กล่อง สติ๊กเกอร์ ฉลาก รับผลิตเบสครีมเบสสบู่ ครีมสบู่ สำเร็จรูป รับผลิตครีม รับผลิตสบู่ รับผลิตเบสรีมต่างๆ รับผลิตเบสสบู่ แพจเกจต่างๆ รับออกแบบกล่อง สติ๊กเกอร์ ฉลาก สารสกัด เคมีภัณฑ์ ครีมหน้าใส รับผลิตเบสครีม ออกแบบฉลาก ออกแบบสติ๊กเกอร์ รับผลิตเบสครีมต่างๆ ครีมสบู่สำเร็จรูป รับผลิตเบสครีมรับผลิตเบสสบู่ รับผลิตลิปสติก รับผลิตลิปสติกเนื้อแมท

Marketing online กับ ABZ >

Digital marketing คืออะไร สำคัญอย่างไร

จากสถิติของโลกวันนี้มีผู้ใช้อินเตอร์เน็ตทั่วโลกมากกว่า 1,600 ล้านคน ในประเทศไทยมีผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตสูงกว่า 16 ล้านคน ครอบคลุมหลากหลายกลุ่ม ตั้งแต่ผู้บริหาร คนทำงาน นักศึกษาและนักเรียน ยังได้ขยายไปสู่กลุ่มแม่บ้าน ซึ่งล้วนแต่เป็นกลุ่มมีศักยภาพที่นักการตลาดทั้งหลายต้องเข้าถึง ผู้บริโภคที่เปิดรับสื่อดิจิตอล หรือ Digital Consumer เหล่านี้มองหาการสื่อสารที่ชัดเจนและมีข้อมูลเพียงพอจะช่วยในการตัดสินใจ ซื้อ/ไม่ซื้อ สินค้า จึงไม่น่าแปลกใจหากปีนี้เราจะเห็นสินค้าอุปโภคบริโภคเพิ่มงบประมาณเข้ามาสู่สื่อดิจิตอลกันมากขึ้น
หากลองมาเปรียบเทียบเครื่องมือทางการตลาด 4Ps ที่เราคุ้นเคย จะทำให้เข้าใจดิจิตอลมาร์เก็ตติ้งในบทบาท ที่แตกต่างด้วยคุณลักษณะเฉพาะด้าน ดังนี้


1. Place อินเตอร์เน็ตเปรียบได้กับโลกเสมือนจริงที่พร้อมให้บริการ 24/7 สำหรับผู้บริโภคทั่วโลก ด้วยจุดเด่นของสื่ออินเตอร์แอคทีฟนี้เองที่สามารถเชื่อมโยงผู้บริโภคและสินค้าเข้าด้วยกัน ไม่ว่าอุปกรณ์ที่ใช้จะเป็นคอมพิวเตอร์หรือมือถือ และสามารถเก็บข้อมูลพฤติกรรมของผู้บริโภคได้ด้วย นักการตลาดทั่วโลกจึงให้ความสำคัญกับดิจิตอลมาร์เก็ตติ้งมาก จากสถิติของจำนวนเว็บไซต์ทั่วโลกมี 47 ล้านเว็บไซต์ที่เกิดขึ้นในปี 2552 ดังนั้นหากจะเริ่มสร้างหน้าร้านหรือเปิดสาขาออนไลน์ขึ้นใหม่ ควรเลือกใช้ชื่อที่ผู้บริโภคจดจำง่าย และสามารถพิมพ์ได้อย่างถูกต้อง อย่าลืมว่าหน้าร้านของคุณอยู่ห่างจากร้านคู่แข่งไปแค่หนึ่งคลิ๊กเท่านั้น

2. Price ระบบการซื้อขายออนไลน์ทำให้ผู้บริโภคสามารถเปรียบเทียบราคาและข้อเสนอที่มากกว่าจากผู้ผลิตแต่ละรายได้ ไม่ว่าจะเป็นเว็บไซต์ประมูล อาทิ eBay หรือร้านหนังสือออนไลน์อย่าง Amazon.com ที่เปิดให้เจ้าของสินค้าได้เสนอราคาแข่งขันต่อผู้บริโภค และผู้บริโภคสามารถให้ Rating การให้บริการได้ เป็นการผลักดันให้ร้านค้าให้บริการที่ดีอย่างต่อเนื่อง

3. Product ในปัจจุบันเทคโนโลยีที่ทันสมัย ทำให้ผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่มีคุณภาพดี การแข่งขันในด้านคุณภาพสินค้าอาจไม่สร้างความแตกต่างให้ผลิตภัณฑ์ต่างๆ อีกต่อไป การสร้างการรับรู้ด้วย Brand ที่อยู่ในใจผู้บริโภค การวิจัยเพื่อคิดค้นนวัตกรรมใหม่ และการให้บริการที่รวดเร็วและเกินความคาดหมายเป็นกลยุทธ์ที่สำคัญ ในการสร้างความแตกต่างของผลิตภัณฑ์ เราสามารถวางกลยุทธ์ออนไลน์เพื่อทำความเข้าใจผู้บริโภคในเชิงลึก ซึ่งส่งผลดีในงานด้านพัฒนาผลิตภัณฑ์(New Product Development) ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคอย่างแท้จริง

4. Promotion สำหรับดิจิตอลมาร์เก็ตติ้งนั้นมีเทคนิคและเครื่องมือที่หลากหลาย อาทิ
Website สิ่งจำเป็นที่สุดบนดิจิตอลมีเดีย เพราะไม่ว่าคุณสร้างแบนเนอร์หรือ
แคมเปญไซต์ในที่ต่างๆ ก็ตาม สุดท้ายการสร้าง Traffic ของผู้บริโภคมาสู่สำนักงานบนโลกออนไลน์เปรียบเสมือนการมีสถานที่กลางเพื่อรองรับฐานข้อมูล สร้างประสบการณ์ที่ประทับใจ  และเป็นประตูทางเข้าสู่ข้อมูลผลิตภัณฑ์และบริการขององค์กร


SEO (Search Engine Optimization) นับเป็นคำถามสุดฮิตว่าทำอย่างไร เว็บไซต์จึงจะอยู่ใน Google Search หน้าแรกและใน List ต้นๆ โดยไม่ต้องใช้งบประมาณสูงในการซื้อ Keyword การออกแบบและพัฒนาเว็บไซต์ด้วยความเข้าใจในเทคโนโลยีของ Search Engine เนื้อหา รวมถึงความนิยมของเว็บไซต์ ล้วนเป็นคุณสมบัติที่ช่วยให้ Search Engine ต่างๆ ค้นพบเว็บไซต์

Social Networking คือ ช่องทางการสื่อสารของนักการตลาดยุคใหม่ มีจุดเด่นในการสร้าง  WOM (Word of Mouth Marketing) ด้วยพลังของการบอกต่อในกลุ่มเพื่อนต่อเพื่อน น่าสนใจที่ปัจจุบันจำนวนของประชากรบน

Facebook ทั่วโลกจำนวนมากกว่า 400 ล้านคน ถือเป็นจำนวนประชากรสูงเป็นอันดับ 3 ของโลกเลยทีเดียว Social Media จึงเป็นพาหนะสำคัญในการ ขับเคลื่อนการบอกต่อ หากเกิดความรู้สึกในแง่ลบและบวกจะสามารถบอกต่อได้รวดเร็วมาก

E-mail Marketing เป็นรูปแบบใหม่ของ Direct Mail มีพื้นฐานของ Permission Marketing ที่ใช้ในการสื่อสารตรงกับกลุ่มเป้าหมาย นอกจากนี้ยังเป็นเครื่องมือสำคัญในการรักษาความสัมพันธ์กับสมาชิก และเชื่อมกลุ่มเป้าหมายไปสู่ข้อมูลหรือกิจกรรมที่เราต้องการได้ โดยสามารถวัดผลได้ชัดเจนในงบประมาณต่ำ

Online PR กลายเป็นช่องทางเสริมการตลาดได้มากกว่าก่อน เพราะสามารถกระจายข่าวสารในลักษณะการประชาสัมพันธ์จากองค์กรถึงผู้บริโภคโดยตรง ในรูปแบบของ Blog หรือ Social Network ผู้บริหารบางรายกลายเป็นพีอาร์คอยสื่อสารเนื้อหาเอง ทำให้ผู้บริโภคเกิดความเชื่อมั่นทั้งช่วยป้องกันและแก้ไขวิกฤติที่อาจเกิดขึ้นได้ทันท่วงที 

CRM นอกจากเทคโนโลยีจะสร้าง Connection ให้เกิดขึ้น ยังช่วยให้นักการตลาดสามารถเก็บข้อมูลเพื่อทำความเข้าใจลูกค้าเป็นรายบุคคลได้ ตัวอย่างเว็บไซต์เพื่อครอบครัวอย่าง Baby.com สามารถขยายผลต่อยอดเสนอการบริการแบบ Tailor- Made ตามช่วงอายุของสมาชิกแต่ละคนได้อย่างน่าประทับใจ 

เห็นอย่างนี้แล้ว นักการตลาดคงต้องหันมาศึกษากลไกของสื่อนิวมีเดียกันชัดๆ อีกครั้ง เพื่อสร้างสรรค์กลยุทธ์ดิจิตอลมาร์เก็ตติ้งให้การสื่อสารสู่กลุ่มเป้าหมายมีพลังและรวดเร็ว อาทิตย์หน้าเราจะมาตามติดชีวิตผู้บริโภคในดิจิตอลเจนเนอเรชั่นกัน ว่าพวกเค้ามีวิธีการคิด ความต้องการและพฤติกรรมเป็นอย่างไร


ตัวอย่าง
บริษัท Agency ต่างๆในประเทศอังกฤษ ออกมาเปิดเผยข้อมูลตรงกันว่าใน ปี 2013 หากลูกค้าของเขามีงบประมาณ 100,000 ปอนด์ (หรือประมาณ 4,6840,000 บาท ) จะแบ่งเงินไป Channel ไหนบ้าง?


ทีมา 
http://www.xmthomasidea.com/on-the-move/activity-detail.aspx?nws=46