สร้างแบรนด์ ครบวงจร มาตรฐานGMP โทร.0949451469 Line : @zzshopzz






รับผลิตครีม รับผลิตครีมกิโล ครีมหน้าใส รับผลิตสบู่ รับผลิตเบสครีม เบสสบู่ เบสครีม แพจเกจต่างๆ หลอดลิปสติกเนื้อแมท หลอดลิปแมท หลอดลิป หลอดลิปจุ่ม บรรจุภัณฑ์หลอดลิปจิ้มจุ่ม ขวดลิปกลอส หลอดลิปจิ้มจุ่ม รับออกแบบ รับออกแบบกล่อง พิมพ์กล่อง สติ๊กเกอร์ ฉลากสินค้า ออกแบบฉลาก สารสกัด เคมีภัณฑ์ รับผลิตลิปสติก รับผลิตลิปสติกเนื้อแมท รับผลิตลิปแมท โรงงานรับผลิตลิป รับผลิตลิปแมท รับผลิตลิป รับผลิตลิปกลอส มีสี RichRad หลอดลิปจิ๋ว หลอดลิป1กรัม หลอดลิป2กรัม หลอดลิป2.5กรัม หลอดลิป3กรัม หลอดลิป5กรัม หลอดลิปมินิ มาร์ค แผ่นมาร์คหน้า มาร์ก แผ่นมาร์กหน้า แผ่นมาร์คหน้า รับผลิตมาร์คหน้า รับผลิมาร์คใยไหม รับผลิตมาร์คทองคำ แผ่นมาส์กหน้า รับผลิตมาส์กหน้า แผ่นมาส์กหน้า

บริการ จดแจ้ง อย | ขอใบ Certificate of free sales : CFS | ขอใบ Certificate of Analysis : COA

ผลิตภายใต้โรงงานที่ได้รับมาตรฐาน GMP เหมาะกับธรุกิจ MLM และส่งออก

หจก. โฮลี คอสเมติก


รับผลิตครีม รับผลิตสบู่ เบสครีม แพจเกจต่างๆ รับออกแบบ พิมพ์กล่อง สติ๊กเกอร์ ฉลาก รับผลิตเบสครีมเบสสบู่ ครีมสบู่ สำเร็จรูป รับผลิตครีม รับผลิตสบู่ รับผลิตเบสรีมต่างๆ รับผลิตเบสสบู่ แพจเกจต่างๆ รับออกแบบกล่อง สติ๊กเกอร์ ฉลาก สารสกัด เคมีภัณฑ์ ครีมหน้าใส รับผลิตเบสครีม ออกแบบฉลาก ออกแบบสติ๊กเกอร์ รับผลิตเบสครีมต่างๆ ครีมสบู่สำเร็จรูป รับผลิตเบสครีมรับผลิตเบสสบู่ รับผลิตลิปสติก รับผลิตลิปสติกเนื้อแมท รับผลิตครีม รับผลิตสบู่ เบสครีม แพจเกจต่างๆ รับออกแบบ พิมพ์กล่อง สติ๊กเกอร์ ฉลาก รับผลิตเบสครีมเบสสบู่ ครีมสบู่ สำเร็จรูป รับผลิตครีม รับผลิตสบู่ รับผลิตเบสรีมต่างๆ รับผลิตเบสสบู่ แพจเกจต่างๆ รับออกแบบกล่อง สติ๊กเกอร์ ฉลาก สารสกัด เคมีภัณฑ์ ครีมหน้าใส รับผลิตเบสครีม ออกแบบฉลาก ออกแบบสติ๊กเกอร์ รับผลิตเบสครีมต่างๆ ครีมสบู่สำเร็จรูป รับผลิตเบสครีมรับผลิตเบสสบู่ รับผลิตลิปสติก รับผลิตลิปสติกเนื้อแมท

ข่าวสารและกิจกรรม > Marketing online กับ ABZ

จัดการการตลาด เทคนิค 7 ข้อประเมินธุรกิจออนไลน์

เราจะมาแนะนำเทคนิค 4P และ 7 ข้อสำหรับการเริ่มต้นทำการตลาด ขายแบบออนไลน์ กัน การขายสินค้าแบบออนไลน์เป็นรูปแบบหนึ่งในการขายสินค้าสำหรับใครที่ต้องการจะเจาะกลุ่มลูกค้าหรือเจาะกลุ่มผู้คนด้วยการใช้เทคโนโลยีเป็นสื่อในการเจาะกลุุ่มลูกค้าและสร้างฐานลูกค้าในเบื้องต้นนั้น เทคนิค 4 P มีด้วยกันดังนี้ คือ

หลัก 4 P รวมผลลัพธ์ที่จะได้ออกมาจริงๆแล้วคือหนึ่งผลลัพธ์   1P = People จำนวนผู้ซื้อ สินค้าที่เราขายสินค้าให้นั่นเอง และสำหรับ 7 ข้อ ในการขายสินค้าออนไลน์คือ


1. หน้าเว็บความน่าเชื่อถือ
2.สินค้า ขายอะไร?
3.การตลาด ทำการตลาดอะไรแล้วบ้าง?
4.ติดตาม มีฐานลูกค้ามากน้อยแค่ไหน?
5.โปรโมชั่น   ออนไลน์ก็ต้องมีโปรโมชั่นเหมือนกัน
6.ราคา   ราคาก็ต้องไม่แพงมากเกินไป
7.เจาะกลุ่มคนให้ถูกเป้าหมาย


สำหรับหลักการที่เราแนะนำนี้เป็น การจัดการการตลาด ก่อนจะเริ่มต้นวางแผนและวิเคราะห์เกี่ยวกับการทำการตลาดในธุรกิจของเราเอง การจัดการธุรกิจแต่ละประเภทธุรกิจนั้นแตกต่างกันออกไป ไม่ว่าคุณนั้นจะขายสินค้าประเภทใดก็ตามต้องมีการวางแผนการจัดการธุรกิจให้ดี และรับมือกับปัญหาให้ได้เมื่อยามเกิดปัญหาสำหรับใครที่ ยังไม่มีรูปแบบเกี่ยวกับการตลาดหรือยังไม่ได้เริ่มต้นวางแผนการโปรโมทธุรกิจวันนี้ เราขอแนะนำให้คุณเริ่มต้นร่างปัญหา และผลการประกอบการใส่กระดาษ A4 เพื่อประมวลและวิเคราะห์ผล ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตก่อน

เริ่มลงมือการโปรโมทหรือการทำการตลาด ในรูปแบบต่างๆ

4C คือ การตลาดแนวใหม่ที่พัฒนาเพื่อตอบโจทย์ธุรกิจ

4C คือ  การตลาดแนวใหม่ที่พัฒนาเพื่อตอบโจทย์ธุรกิจ
กลยุทธ์การตลาด 4C คือ เป็นแนวคิดทางด้านการตลาดแนวใหม่ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ของ ผู้บริโภคให้ตรงประเด็นได้มากที่สุด เพราะปัจจุบันจากพฤติกรรมในการเลือกซื้อสินค้าและบริการของผู้บริโภคเปลี่ยนไป กลยุทธ์การตลาด 4C ประกอบด้วย
               C ตัวที่ 1 มาจากคำว่า Consumer Wants and Needs หมายถึงความต้องการของผู้บริโภค การผลิต สินค้าในปัจจุบันต้องคำนึงถึงความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก และนักการตลาดต้องรู้ก่อนว่าลูกค้าหรือผู้บริโภคต้องการสินค้าแบบไหน
                C ตัวที่ 2 มาจากคำว่า Consumer’s Cost to satisfy หมายถึง ต้นทุนของผู้บริโภค การตั้งราคาของผู้ผลิตต้องคำนึงต้นทุนของผู้บริโภคมากกว่าต้นทุนของผู้ผลิต
                C ตัวที่ 3 มาจากคำว่า Convenience to buy หมายถึง ความสะดวกในการซื้อ ผู้ประกอบการหรือนักการตลาดจะต้องคำนึงถึงความสะดวกสบายในการซื้อสินค้าของผู้บริโภคเป็นสำคัญ โดยอาจเพิ่มช่องทางในการซื้อให้กับลูกค้า
                C ตัวที่ 4 มาจากคำว่า Communication that Connects หมายถึง การสื่อสาร การสื่อสารที่ดีจะทำให้ลูกค้าเกิดความเชื่อใจและเชื่อถือในตัวสินค้า ที่จะส่งผลให้เกิดการสั่งซื้อเพิ่มมากขึ้น

แต่ กลยุทธ์การตลาด 4C คือ กลยุทธ์การตลาดแนวใหม่ที่พัฒนาขึ้นเพื่อตอบโจทย์และความต้องการของลูกค้าในยุคที่อินเทอร์เน็ตเข้ามามีบทบาทสำคัญ ดังนั้นเมื่อกลยุทธ์ 4C เกิดจากการพัฒนาของอินเทอร์เน็ต นักการตลาดที่ชาญฉลาดก็ต้องใช้อินเทอร์เน็ตทำการตลาดให้ประสบความสำเร็จด้วยเช่นกัน
เมื่ออินเทอร์เน็ตเข้ามามีบทบาทสำคัญ และกลายเป็นเครื่องมือสำคัญอย่างหนึ่งในการทำธุรกิจ ส่วนผสมทางการตลาดหรือหลักการตลาด 4P ที่นิยมนำใช้เป็นกลยุทธ์ด้านการตลาดทั้ง 4 ประการซึ่งได้แก่ สินค้า ราคา ช่องทางการจัดจำหน่าย และการส่งเสริมการตลาด คงไม่เพียงพอสำหรับใช้ต่อสู้กับคู่แข่ง ทางการตลาดได้ เมื่ออินเทอร์เน็ตเข้ามามีบทบาทสำคัญจึงทำให้เกิดกลยุทธ์การตลาดแนวใหม่ขึ้นมา เพื่อเป็นเครื่องมือใช้ควบคู่ไปกับหลักการตลาด 4P กลยุทธ์การตลาด 4C คืออะไร im2market มีคำตอบมาให้ >จับคู่ 4P กับ 4C เพิ่มประสิทธิภาพให้ธุรกิจการตลาดอย่างชัดเจน

6 วิธีทำการตลาดออนไลน์อย่างมืออาชีพ

1.ทำการตลาดผ่านสังคมออนไลน์ หรือ Social Media Marketing (SMM)
ข้อดีในการทำการตลาดผ่านสังคมออนไลน์ก็คือสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้อย่างรวดเร็วทันใจ และเป็นการประชาสัมพันธ์ เพื่อให้เกิดการบอกต่อได้อย่างง่ายดาย เช่น Facebook Fanpage, Twitter Account, Youtube Account, Blog Marketing และอื่นๆ อีกหลายช่องทาง

2.การทำ SEO หรือ Search Engine Optimization เป็นการโปรโมทเว็บไซต์หรือร้านค้าออนไลน์ให้ติดอันดับต้นๆ จากการค้นหาด้วย Keyword ซึ่งเป็นหนึ่งในกระบวนการบริหารจัดการเว็บไซต์หรือ ร้านค้าออนไลน์ทางด้านการตลาดอย่างมืออาชีพนั้นเอง
3.ใช้บริการ Google Adwords เป็นการโปรโมทร้านค้าหรือทำการตลาดอีกรูปแบบหนึ่ง ที่ช่วยให้โฆษณาร้านโดดเด่นและเพิ่มโอกาสในการคลิกเข้าไปยังเว็บไซต์มากขึ้น
4.ทำการตลาดโดยอาศัยตัวแทนโฆษณา หรือ Affiliate marketing คือสามารถสร้างรายได้โดยไม่ จำเป็นต้องมีสินค้าหรือบริการ และได้ผลตอบแทนเป็นค่าคอมมิสชั่นจากเจ้าของเว็บไซต์
5.โฆษณาตามกลุ่มเป้าหมาย หรือ Contextual Targeting หมายถึงการโฆษณาหรือทำการตลาดกับ กลุ่มเป้าหมายโดยตรง เช่นสร้างโฆษณาที่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องตรงความสนใจของกลุ่มเป้าหมาย หากสินค้าเป็นกลุ่มเครื่องสำอาง อาจนำเสนอวิธีใช้เครื่องสำอางอย่างถูกวิธี แนะนำการแต่งหน้า
6.การใช้ข้อความเป็นตัวโฆษณาเพื่อเชื่อมโยงไปยังเว็บไซต์ หรือ Text-Link Ads วิธีทำการตลาดใน รูปแบบนี้ไม่ทำให้กลุ่มเป้าหมายรู้สึกว่าถูกยัดเยียดการโฆษณา

Content Marketing คืออะไร

Content Marketing คือ เทคนิคด้านการตลาด ในการสร้างและแจกจ่าย Content ที่มี “คุณค่า” กับกลุ่มเป้าหมาย โดยมีจุดประสงค์ให้กลุ่มเป้าหมายกลับมาสร้างรายได้ให้เรา

สำหรับ Content ในที่นี้สามารถเป็นเนื้อหาในสื่อใดก็ได้นะครับ ตัวอย่างของสื่อที่ได้รับความนิยมมาก ก็คือ:
<
บทความ = ข้อเขียนในหน้าเว็บไซต์ต่าง ๆ อาจจะเป็นโพส Facebook หรือเนื้อหายาว ๆ ในเว็บไซต์ก็ได้
 
กราฟฟิก = ก่อนหน้านี้ก็มีเทรนด์การทำ Infographic สวย ๆ ที่ย่อข้อเขียนยาว ๆ ให้อ่านง่ายขึ้นด้วยรูปเข้าใจง่าย โพสลงใน Facebook แล้วได้รับความนิยมมาก ถึงขนาดมีบริษัทที่เปิดขึ้นมารับทำ Infographic โดยเฉพาะเลย

วีดิโอ = การทำวีดิโอได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะมี Youtube.com ที่แบรนด์สามารถสร้าง Video Channel ของตัวเองได้ฟรี แถมมีฐานผู้ใช้มหาศาล ซึ่งถ้าติดตาม Cannes Award จะเห็นวีดิโอได้รางวัลหลายตัวเลยที่สร้างขึ้นมาทำ Content Marketing

รายการวิทยุ (Podcast) = ถึงในไทยจะไม่ค่อยได้รับความนิยมเท่าไหร่ แต่ในต่างประเทศการอัดเสียงตัวเองพูดเรื่องอะไรสักอย่างเป็นเหมือนรายการวิทยุ แล้วเผยแพร่ทาง iTune, เว็บไซต์ส่วนตัว เป็นสิ่งที่ได้รับความนิยมมากครับ คนที่พูดเก่ง ๆ กลายเป็นคนดัง มีคนเชิญไปเป็น Speaker ในงานต่าง ๆ มากมายเลยทีเดียว

ที่มา 
http://www.growthbee.com/what-is-content-marketing/

รู้ข้อดี ข้อเสีย สื่อโฆษณาทางการตลาด เบื้องต้น

ข้อดี-ช้อเสีย ของ สื่อโฆษณาทางการตลาด  (Type  of  Advertising  Media )
การตลาดมีกลยุทธ์มากมายที่จะสามารถเป็นสื่อให้ผู้บริโภคหรือกลุ่มเป้าหมายได้รู้จักผลิตภัณฑ์  ซึ่งสื่อโฆษณาก็เช่นเดียวกัน เป็นกลยุทธ์ที่ดีอย่างหนึ่งเลยทีเดียว ในปัจจุบันสื่อโฆษณาสามารถแบ่งออกได้หลายชนิด แต่ที่นิยมใช้และเป็นที่รู้จักจะแบ่งออกเป็นต่อไปนี้  ได้แก่

หนังสือพิมพ์ (Newspaper)
 
 ข้อดี : ผู้อ่านสามารถเลือกอ่านได้ตามใจชอบ   หนังสือพิมพ์สามารถลงโฆษณามีเนื้อหาที่ละเอียด  สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้กว้างไกล จำนวนมากและรวดเร็ว<

 ข้อเสีย : โฆษณาในหนังสือพิมพ์เป็นแบบขาดความโดดเด่น  ผู้ทำหนังสือพิมพ์ต้องทำด้วยความเร่งรีบเพราะทำวันต่อวัน  ภาพจากหนังสือพิมพ์ไม่สวย เพราะกระดาษมีคุณภาพที่ต่ำ


นิตยสาร (Magazine)
 
ข้อดี : สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้  ภาพมีสีสันสวยงาม ใช้กระดาษแบบมันวาว เหมาะแก่การโฆษณา มีการยกระดับสินค้าทำให้เกิดภาพลักษณ์ที่ดีมากขึ้นด้วย


 ข้อเสีย :  นิตยสารเข้าถึงแค่กลุ่มเป้าหมายเท่านั้น  เป็นสื่อที่ออกมาช้า  ยากต่อการปรับเปลี่ยนข้อความบนนิตยสาร เพราะต้องใช้เวลาในการพิมพ์  การส่งสำนักพิมพ์ ก่อนที่จะจัดทำรูปเล่ม
-----------------------------------------------------------

โทรทัศน์ (Television)  เป็นสื่อที่คนนิยมมากที่สุด และมีประสิทธิภาพมากที่สุด

ข้อดี  :  เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้กว้างขวาง  มีภาพที่สวย  คมชัด มีการเคลื่อนไหว ทำให้เห็นภาพชัดขึ้น  สามารถปรับปรุงตัวโฆษณาก่อนวันที่จะลงจอได้  ผู้คนสนใจมากที่สุด

ข้อเสีย  : สื่อทางโทรทัศน์มีค่าใช้จ่ายที่สูง  ผู้ชมไม่ค่อยชอบเพราะมักจะขัดจังหวะเวลาดูรายการทีวีที่ชอบ  โฆษณาบางตัวไม่เป็นที่จดจำของผู้บริโภค นอกจะลงโฆษณาให้ถี่ๆหรือมีคำพูดที่ติดหู
-----------------------------------------------------------

วิทยุ (Radio)

ข้อดี  : ไปยังกลุ่มผู้บริโภคได้มากและรวดเร็ว  สามารถปรับเปลี่ยนโฆษณาก่อนออกอากาศได้เล็กน้อย เป็นงานและเสียค่าใช้จ่ายไม่มาก  มีความถี่ในการโฆษณาสูง<
ข้อเสีย  : ไม่สามารถเข้าไปถึงผู้ฟังได้จริงๆ เพราะขณะฟังผู้ฟังจะทำธุระของตนไปด้วย  ไม่สามารถเห็นผลิตภัณฑ์ได้เลย
-----------------------------------------------------------

โฆษณากลางแจ้ง (Outdoor)

 ข้อดี  : สามารถครอบคลุมตลาดได้ดี กว้างขวาง  รวดเร็ว
ข้อเสีย  :  ข้อความสั้นๆบางครั้งก็สื่อความหมายได้ไม่ชัดเจน  ไม่สามารถเจาะจงกลุ่มเป้าหมายได้

-----------------------------------------------
สื่อทางไปรษณีย์ (Direct mail)

ข้อดี : ระบุกลุ่มเป้าหมายได้  สามารถปกปิดไม่คู่แข่งได้เห็นและแข่งขัน
ข้อเสีย : อาจจะไม่ได้รับความสนใจ ได้รับละก็ทิ้ง ค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง
-----------------------------------------------------------

โรงภาพยนตร์ (Cinema)
ข้อดี  : ได้รูปภาพขนาดใหญ่ สีสวย  เลี่ยงไม่ได้ที่ต้องดู เจาะกลุ่มเป้าหมายได้ดี
ข้อเสีย :  ราคาแพง  ใช้เวลาทำนานพอสมควร
-----------------------------------------------------------

สื่อออนไลน์ (Online media)

ข้อดี : ไม่จำกัดเวลา โฆษณาได้ทุกเวลาทั้ง24ชั่วโมง เปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ง่ายและรวดเร็ว  ราคาไม่แพง สามารถดาวน์โหลดเก็บไว้ดูภายหลังได้
ข้อเสีย : อาจสร้างความรำคาญให้คนที่เห็น  ขัดตา เลือกกลุ่มเป้าหมายไม่ได้
-----------------------------------------------------------
แต่ที่สำคัญของการทำสื่อโฆษณาทางการการตลาด ควรวางแผน และวิเคราะห์ เพื่อจะได้รู้ว่าธุรกิจของเราเหมาะกับการทำด้านไหนครับ


Digital marketing คืออะไร สำคัญอย่างไร

จากสถิติของโลกวันนี้มีผู้ใช้อินเตอร์เน็ตทั่วโลกมากกว่า 1,600 ล้านคน ในประเทศไทยมีผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตสูงกว่า 16 ล้านคน ครอบคลุมหลากหลายกลุ่ม ตั้งแต่ผู้บริหาร คนทำงาน นักศึกษาและนักเรียน ยังได้ขยายไปสู่กลุ่มแม่บ้าน ซึ่งล้วนแต่เป็นกลุ่มมีศักยภาพที่นักการตลาดทั้งหลายต้องเข้าถึง ผู้บริโภคที่เปิดรับสื่อดิจิตอล หรือ Digital Consumer เหล่านี้มองหาการสื่อสารที่ชัดเจนและมีข้อมูลเพียงพอจะช่วยในการตัดสินใจ ซื้อ/ไม่ซื้อ สินค้า จึงไม่น่าแปลกใจหากปีนี้เราจะเห็นสินค้าอุปโภคบริโภคเพิ่มงบประมาณเข้ามาสู่สื่อดิจิตอลกันมากขึ้น
หากลองมาเปรียบเทียบเครื่องมือทางการตลาด 4Ps ที่เราคุ้นเคย จะทำให้เข้าใจดิจิตอลมาร์เก็ตติ้งในบทบาท ที่แตกต่างด้วยคุณลักษณะเฉพาะด้าน ดังนี้


1. Place อินเตอร์เน็ตเปรียบได้กับโลกเสมือนจริงที่พร้อมให้บริการ 24/7 สำหรับผู้บริโภคทั่วโลก ด้วยจุดเด่นของสื่ออินเตอร์แอคทีฟนี้เองที่สามารถเชื่อมโยงผู้บริโภคและสินค้าเข้าด้วยกัน ไม่ว่าอุปกรณ์ที่ใช้จะเป็นคอมพิวเตอร์หรือมือถือ และสามารถเก็บข้อมูลพฤติกรรมของผู้บริโภคได้ด้วย นักการตลาดทั่วโลกจึงให้ความสำคัญกับดิจิตอลมาร์เก็ตติ้งมาก จากสถิติของจำนวนเว็บไซต์ทั่วโลกมี 47 ล้านเว็บไซต์ที่เกิดขึ้นในปี 2552 ดังนั้นหากจะเริ่มสร้างหน้าร้านหรือเปิดสาขาออนไลน์ขึ้นใหม่ ควรเลือกใช้ชื่อที่ผู้บริโภคจดจำง่าย และสามารถพิมพ์ได้อย่างถูกต้อง อย่าลืมว่าหน้าร้านของคุณอยู่ห่างจากร้านคู่แข่งไปแค่หนึ่งคลิ๊กเท่านั้น

2. Price ระบบการซื้อขายออนไลน์ทำให้ผู้บริโภคสามารถเปรียบเทียบราคาและข้อเสนอที่มากกว่าจากผู้ผลิตแต่ละรายได้ ไม่ว่าจะเป็นเว็บไซต์ประมูล อาทิ eBay หรือร้านหนังสือออนไลน์อย่าง Amazon.com ที่เปิดให้เจ้าของสินค้าได้เสนอราคาแข่งขันต่อผู้บริโภค และผู้บริโภคสามารถให้ Rating การให้บริการได้ เป็นการผลักดันให้ร้านค้าให้บริการที่ดีอย่างต่อเนื่อง

3. Product ในปัจจุบันเทคโนโลยีที่ทันสมัย ทำให้ผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่มีคุณภาพดี การแข่งขันในด้านคุณภาพสินค้าอาจไม่สร้างความแตกต่างให้ผลิตภัณฑ์ต่างๆ อีกต่อไป การสร้างการรับรู้ด้วย Brand ที่อยู่ในใจผู้บริโภค การวิจัยเพื่อคิดค้นนวัตกรรมใหม่ และการให้บริการที่รวดเร็วและเกินความคาดหมายเป็นกลยุทธ์ที่สำคัญ ในการสร้างความแตกต่างของผลิตภัณฑ์ เราสามารถวางกลยุทธ์ออนไลน์เพื่อทำความเข้าใจผู้บริโภคในเชิงลึก ซึ่งส่งผลดีในงานด้านพัฒนาผลิตภัณฑ์(New Product Development) ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคอย่างแท้จริง

4. Promotion สำหรับดิจิตอลมาร์เก็ตติ้งนั้นมีเทคนิคและเครื่องมือที่หลากหลาย อาทิ
Website สิ่งจำเป็นที่สุดบนดิจิตอลมีเดีย เพราะไม่ว่าคุณสร้างแบนเนอร์หรือ
แคมเปญไซต์ในที่ต่างๆ ก็ตาม สุดท้ายการสร้าง Traffic ของผู้บริโภคมาสู่สำนักงานบนโลกออนไลน์เปรียบเสมือนการมีสถานที่กลางเพื่อรองรับฐานข้อมูล สร้างประสบการณ์ที่ประทับใจ  และเป็นประตูทางเข้าสู่ข้อมูลผลิตภัณฑ์และบริการขององค์กร


SEO (Search Engine Optimization) นับเป็นคำถามสุดฮิตว่าทำอย่างไร เว็บไซต์จึงจะอยู่ใน Google Search หน้าแรกและใน List ต้นๆ โดยไม่ต้องใช้งบประมาณสูงในการซื้อ Keyword การออกแบบและพัฒนาเว็บไซต์ด้วยความเข้าใจในเทคโนโลยีของ Search Engine เนื้อหา รวมถึงความนิยมของเว็บไซต์ ล้วนเป็นคุณสมบัติที่ช่วยให้ Search Engine ต่างๆ ค้นพบเว็บไซต์

Social Networking คือ ช่องทางการสื่อสารของนักการตลาดยุคใหม่ มีจุดเด่นในการสร้าง  WOM (Word of Mouth Marketing) ด้วยพลังของการบอกต่อในกลุ่มเพื่อนต่อเพื่อน น่าสนใจที่ปัจจุบันจำนวนของประชากรบน

Facebook ทั่วโลกจำนวนมากกว่า 400 ล้านคน ถือเป็นจำนวนประชากรสูงเป็นอันดับ 3 ของโลกเลยทีเดียว Social Media จึงเป็นพาหนะสำคัญในการ ขับเคลื่อนการบอกต่อ หากเกิดความรู้สึกในแง่ลบและบวกจะสามารถบอกต่อได้รวดเร็วมาก

E-mail Marketing เป็นรูปแบบใหม่ของ Direct Mail มีพื้นฐานของ Permission Marketing ที่ใช้ในการสื่อสารตรงกับกลุ่มเป้าหมาย นอกจากนี้ยังเป็นเครื่องมือสำคัญในการรักษาความสัมพันธ์กับสมาชิก และเชื่อมกลุ่มเป้าหมายไปสู่ข้อมูลหรือกิจกรรมที่เราต้องการได้ โดยสามารถวัดผลได้ชัดเจนในงบประมาณต่ำ

Online PR กลายเป็นช่องทางเสริมการตลาดได้มากกว่าก่อน เพราะสามารถกระจายข่าวสารในลักษณะการประชาสัมพันธ์จากองค์กรถึงผู้บริโภคโดยตรง ในรูปแบบของ Blog หรือ Social Network ผู้บริหารบางรายกลายเป็นพีอาร์คอยสื่อสารเนื้อหาเอง ทำให้ผู้บริโภคเกิดความเชื่อมั่นทั้งช่วยป้องกันและแก้ไขวิกฤติที่อาจเกิดขึ้นได้ทันท่วงที 

CRM นอกจากเทคโนโลยีจะสร้าง Connection ให้เกิดขึ้น ยังช่วยให้นักการตลาดสามารถเก็บข้อมูลเพื่อทำความเข้าใจลูกค้าเป็นรายบุคคลได้ ตัวอย่างเว็บไซต์เพื่อครอบครัวอย่าง Baby.com สามารถขยายผลต่อยอดเสนอการบริการแบบ Tailor- Made ตามช่วงอายุของสมาชิกแต่ละคนได้อย่างน่าประทับใจ 

เห็นอย่างนี้แล้ว นักการตลาดคงต้องหันมาศึกษากลไกของสื่อนิวมีเดียกันชัดๆ อีกครั้ง เพื่อสร้างสรรค์กลยุทธ์ดิจิตอลมาร์เก็ตติ้งให้การสื่อสารสู่กลุ่มเป้าหมายมีพลังและรวดเร็ว อาทิตย์หน้าเราจะมาตามติดชีวิตผู้บริโภคในดิจิตอลเจนเนอเรชั่นกัน ว่าพวกเค้ามีวิธีการคิด ความต้องการและพฤติกรรมเป็นอย่างไร


ตัวอย่าง
บริษัท Agency ต่างๆในประเทศอังกฤษ ออกมาเปิดเผยข้อมูลตรงกันว่าใน ปี 2013 หากลูกค้าของเขามีงบประมาณ 100,000 ปอนด์ (หรือประมาณ 4,6840,000 บาท ) จะแบ่งเงินไป Channel ไหนบ้าง?


ทีมา 
http://www.xmthomasidea.com/on-the-move/activity-detail.aspx?nws=46

 [1